บทนำ

ความคิดที่ว่าการตอบกลับลูกค้าทันทีและการแก้ไขข้อร้องเรียนอย่างรวดเร็วเป็นเครื่องหมายที่รับประกันบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยมนั้นกำลังจะหมดไป ทุกวันนี้ ลูกค้าของคุณคิดว่าหลักปฏิบัติเหล่านี้เป็นเรื่องปกติและควรจะเป็นเช่นนี้ ในกรณีนี้ คุณจะทำอย่างไรเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าจะพึงพอใจและภักดี

ในช่วงเริ่มต้น คุณสามารถเสนอระยะเวลาการแก้ไขข้อร้องเรียนที่สมเหตุสมผลและทำได้จริง และพยายามส่งมอบผลลัพธ์ให้ได้ภายในเวลาที่แจ้งไว้ คุณต้องการแค่การเตรียมการและการจัดระเบียบอีกเล็กน้อย เพื่อที่จะมั่นใจว่าพอร์ทัล Zoho Desk พร้อมที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้

จากความยุ่งเหยิงสู่ความชัดเจน

ความท้าทายหลักที่ทีมสนับสนุนลูกค้าส่วนใหญ่เผชิญคือปริมาณของตั๋วที่ได้รับทุกวัน คงไม่ต้องพูดว่าถ้าองค์กรเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่หลากหลาย จำนวนตั๋วก็จะยิ่งมากขึ้น การติดตามว่าตั๋วใดเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ใด และการตัดสินใจว่าตัวแทน/ทีมใดรับผิดชอบตั๋วใดนั้นอาจเป็นไปได้ยากในสถานการณ์ดังกล่าว ดังนั้น ในขั้นตอนแรก คุณต้องสร้างวิธีการจัดระเบียบตั๋วที่ง่ายดายขึ้นมา และวิธีแรกและวิธีที่ดีที่สุดสำหรับขั้นตอนนี้ใน Zoho Desk คือการใช้แผนก

แผนกเป็นหน่วยการจัดระเบียบที่ช่วยให้คุณปรับกระบวนการด้านตั๋วที่แผนกช่วยเหลือได้รับให้เรียบง่ายขึ้น คุณสามารถกำหนดค่าแผนกตามผลิตภัณฑ์หรือบริการที่คุณนำเสนอ ภูมิภาคที่คุณดำเนินงานอยู่ ทีมธุรกิจต่างๆ ในองค์กรของคุณก็ได้

เมื่อใช้การกำหนดค่าแผนก คุณจะได้รับความสามารถในการให้การสนับสนุนที่สอดคล้องและมีคุณภาพไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์/บริการใดก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้น แผนกที่เฉพาะเจาะจงจะทำให้การฝึกอบรมตัวแทนสนับสนุนเป็นไปได้ง่ายขึ้นโดยที่คุณไม่จำเป็นต้องฝึกอบรมตัวแทนทุกคนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์/บริการทั้งหมด คุณสามารถรวมกลุ่มตัวแทนขนาดเล็กและฝึกอบรมตัวแทนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เฉพาะเจาะจงได้ วิธีนี้ทำให้คุณทราบอย่างชัดเจนว่าใคร (ตัวแทนคนใด) จะทำหน้าที่สนับสนุนผลิตภัณฑ์ใด

เพราะฉะนั้นในขั้นตอนแรกคุณจึงควรสร้างแผนกให้ได้จำนวนมากที่สุดโดยอิงตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการสนับสนุน หลังจากดำเนินการในขั้นตอนนี้แล้ว คุณสามารถดำเนินการขั้นตอนต่อไปในการมอบหมายตัวแทนที่เหมาะสมให้จัดการข้อร้องเรียนได้

ความรับผิดชอบ
อัตโนมัติ

ด้วยเทมเพลตตั๋วและ/หรือกฎขั้นตอนการทำงาน ตั๋วใหม่ที่สร้างขึ้นในแผนกช่วยเหลือของคุณจะส่งถึงแผนกที่ดูแลได้โดยอัตโนมัติและทันที เมื่อใช้การทำให้เป็นแบบอัตโนมัตินี้เป็นระบบพื้นฐาน คุณก็จะใช้ความสามารถอัตโนมัติอื่นๆ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการ a) กำหนดตัวแทนที่จะจัดการตั๋ว และ b) กระจายปริมาณงานให้ตัวแทนอย่างเท่าๆ กัน

กฎอัตโนมัติของ Zoho Desk เกี่ยวกับการมอบหมายตั๋วที่มอบหมายได้ทั้งแบบโดยตรงและแบบเวียนสามารถช่วยคุณได้ การมอบหมายโดยตรงให้คุณกำหนดกฎที่ชัดเจนได้ เช่น “หากช่องทางตั๋วคือการแชท มอบหมายให้ Catherine” “หากรหัสสินค้าเป็น XT372 มอบหมายให้ Miriam” “หากหัวเรื่องมีคำว่าขอคืนเงิน มอบหมายให้ Adebayo” และอื่นๆ ด้วยการกำหนดค่ากฎการทำให้เป็นแบบอัตโนมัติที่ชัดเจนดังกล่าว คุณจะสามารถส่งตั๋วที่สำคัญให้กับแทนที่เหมาะสมในเวลาที่เหมาะสมได้

ในทางกลับกัน การมอบหมายแบบเวียนทำให้คุณกระจายตั๋วขาเข้าระหว่างตัวแทนที่ระบุหรือตัวแทนทั้งหมดในแผนกได้อย่างเท่าๆ กัน ในระดับที่ละเอียดขึ้น คุณสามารถจำกัดจำนวนสูงสุดของตั๋วที่สามารถมอบหมายให้กับตัวแทนแต่ละราย เลือกว่าจะมอบหมายตั๋วให้กับตัวแทนที่ออฟไลน์ด้วยหรือไม่ และกำหนดว่าจะพิจารณาตั๋วค้างเพื่อมอบหมายหรือไม่

กฎการทำให้เป็นแบบอัตโนมัติเหล่านี้จะช่วยให้คุณดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง เช่น เมื่อมีการมอบหมายตั๋วแล้ว ตัวแทนของคุณจะสามารถเริ่มแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว

ไม่ต้องคาดเดา
เนื่องจากมีข้อมูลบริบทมากขึ้น

ตัวแทนของคุณต้องทราบข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับลูกค้าและข้อร้องเรียนก่อน จึงจะแก้ปัญหาข้อร้องเรียนได้ หน้ารายละเอียดตั๋วใน Zoho Desk ได้รับการออกแบบในลักษณะที่เข้าถึงข้อมูลสำคัญได้อย่างง่ายดาย เช่น คุณสามารถดูรายละเอียดพื้นฐาน เช่น ชื่อของลูกค้า องค์กรที่ทำงานอยู่ ข้อตกลงระดับการบริการ (SLA) ที่เกี่ยวข้องกับตั๋ว และอื่นๆ ได้จากหน้านี้ หากสำรวจเพิ่มเติม คุณจะสามารถดูรายละเอียดอื่นๆ เช่น การอัปเดตที่ทำขึ้นเพื่อแก้ไขตั๋วและการโต้ตอบในอดีตของลูกค้าได้

มีอะไรอีก คุณสามารถหน้ารายละเอียดลูกค้าซึ่งแสดงตั๋วที่เปิดอยู่ในปัจจุบันและการให้คะแนนความพึงพอใจที่ผ่านมาของลูกค้าได้ในคลิกเดียว ความรู้ที่ได้รับจากการเข้าถึงรายละเอียดเหล่านี้จะช่วยให้ตัวแทนของคุณเข้าใจเกี่ยวกับลูกค้ามากขึ้นและปรับคำตอบให้เหมาะสม

นอกจากนี้ เมื่อต้องเผชิญกับตั๋วที่ยุ่งยาก/ตั๋วสำคัญ ตัวแทนของคุณมักต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความต้องการของลูกค้า รายละเอียดต่างๆ เช่น การซื้อโดยรวมของลูกค้าและข้อมูลใบแจ้งหนี้จะมีประโยชน์ในกรณีนี้ ด้วยเหตุนี้เองการผสานรวมจึงเข้ามามีบทบาท

ด้วยการรวมพอร์ทัล Zoho Desk และ Zoho CRM เข้าด้วยกัน คุณจะเห็นภาพความสัมพันธ์ของลูกค้ากับองค์กรของคุณอย่างชัดเจน คุณสามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าซื้อ ขนาดของข้อเสนอ จำนวนใบอนุญาต และอื่นๆ ได้จากหน้าจอรายละเอียดตั๋วใน Zoho Desk

ถ้าคุณผสานรวมพอร์ทัลเข้ากับแอป Zoho หรือแอปของบุคคลที่สามเช่น Jira หรือ Trello ตัวแทนของคุณจะสามารถเข้าถึงข้อมูลลูกค้าที่เกี่ยวข้องจากแอปเหล่านี้ได้โดยตรงจากภายใน Zoho Desk

ทำงานร่วมกัน ร่วมมือกัน

หลายๆ ครั้งการแก้ปัญหาตามคำขอของลูกค้าที่น่าพึงพอใจอาจเกิดขึ้นได้ผ่านการทำงานร่วมกันแบบข้ามสายงานเท่านั้น ไม่ว่าข้อมูลนั้นจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่สำคัญ เช่น การคืนเงินผลิตภัณฑ์ หรือสิ่งที่ต้องทราบในทันที เช่น สถานะการจัดส่ง ตัวแทนของคุณก็มักต้องทำงานร่วมกับกับเพื่อนร่วมงานจากแผนกอื่นๆ เพื่อส่งต่อการอัปเดตให้กับลูกค้า

ใน Zoho Desk คุณสามารถทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ผ่านความคิดเห็นเกี่ยวกับตั๋วและเครื่องมือการแชทของตัวแทนได้ ความสามารถในการทำงานร่วมกันเหล่านี้สามารถขยายไปยังผู้ใช้ Zoho Desk ทั้งหมดในพอร์ทัล ไม่ว่าจะเป็นตัวแทนหรือตัวแทนระดับต้น หากต้องการใช้ความสามารถเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เพิ่มเพื่อนร่วมทีมจากแผนกทางธุรกิจอื่นๆ ให้เป็นตัวแทนระดับต้นแล้ว

แบ่งและมอบหมายงาน

หลังจากวิเคราะห์ข้อร้องเรียนของลูกค้าอย่างละเอียดและหาวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ไขข้อร้องเรียนแล้ว คุณก็ต้องเตรียมแผนดำเนินการ ในขั้นตอนนี้คุณจะต้องชักชวนเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ โดยพิจารณาจากระดับการมีส่วนร่วมของพวกเขาในการแก้ไขปัญหาตั๋ว

ใช้โมดูลงานใน Zoho Desk เพื่อมอบหมายรายการงานที่เฉพาะเจาะจงให้กับเพื่อนร่วมงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งวันครบกำหนดส่งงาน รวมถึงตั้งค่าตัวเตือนสำหรับงาน

หากคุณใช้แอปการจัดการโปรเจค/งานของบุคคลที่สาม เช่น Ferro คุณสามารถรวมพื้นที่ทำงานของ Trello เข้ากับพอร์ทัล Zoho Desk และมอบหมาย/ติดตามความคืบหน้าของงานจากภายใน Zoho Desk ได้ เมื่อใช้การผสานรวมนี้ คุณสามารถแนบตั๋วการสนับสนุนและมุมมองตั๋วไปยังบัตร Trello และแก้ไขรายละเอียดตั๋วใน Trello รวมถึงเวลาที่งานเสร็จได้ คุณยังสามารถติดตั้งส่วนขยายของ Trello ในพอร์ทัล Zoho Desk เพื่อเพิ่มและติดตามการ์ด Trello จากอินเทอร์เฟซผู้ใช้ของ Zoho Desk ได้อีกด้วย 

การมอบหมายงานที่เฉพาะเจาะจงให้กับผู้มีส่วนได้เสียแต่ละคนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการแก้ไขปัญหาจะทำให้คุณดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้ นั่นก็คือ...

มีการสื่อสารความคืบหน้าหรือไม่
สื่อสาร

คุณต้องเสนอเวลาในการแก้ไขปัญหาตั๋วอย่างคร่าวๆ ให้กับลูกค้า แต่ระดับของข้อมูลจำกัดนั้นจะเพียงพอหรือไม่ ไม่จำเป็น สิ่งสำคัญไม่แพ้กันก็คือการทำให้ลูกค้าทราบถึงความคืบหน้าที่คุณดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาการร้องเรียนของพวกเขา การให้ข้อมูลอัปเดตโดยที่ไม่ต้องถามจะช่วยให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าข้อร้องเรียนของพวกเขากำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ และเป็นการบอกเวลาโดยประมาณที่ใช้เพื่อแก้ปัญหาให้เสร็จสิ้น วิธีนี้จะเพิ่มความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจให้กับคุณได้ 

ใช้เทมเพลตอีเมลใน Zoho Desk เพื่อสร้างอีเมลแจ้งเตือน/อีเมลตอบกลับแบบปรับแต่งเองที่ช่วยบรรลุวัตถุประสงค์ต่างๆ ได้ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถสร้างเทมเพลตที่แจ้งให้ลูกค้าทราบว่าคุณได้รับตั๋วของพวกเขาแล้ว ส่วนอีกเทมเพลตหนึ่งระบุว่ามีการสร้างโซลูชันและกำลังอยู่ระหว่างการทดสอบ หรืออีกเทมเพลตหนึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับสถานะการส่งสินค้าของรายการสินค้าที่ยังยังส่งไม่ถึงลูกค้า เป็นต้น

สิ่งที่ดีที่สุดคือคุณสามารถปรับแต่งเนื้อหาให้เป็นส่วนตัวได้ เช่น ใช้ชื่อลูกค้า หมายเลขตั๋ว และรายละเอียดเฉพาะอื่นๆ ที่จะรวมอยู่ในอีเมล แต่ทำให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้ใช้อีเมลการแจ้งเตือนเหล่านี้มากเกินไป เนื่องจากคุณอาจเสี่ยงที่จะถูกมองว่ารุกล้ำความเป็นส่วนตัว

เขียนได้ทันที แล้วใช้อ้างอิงในภายหลัง

ทีนี้ข้อร้องเรียนที่ซับซ้อนก็ได้รับการแก้ไข และลูกค้าก็พึงพอใจกับวิธีการจัดการข้อร้องเรียน แล้วตอนนี้ถึงเวลาที่คุณจะพักผ่อนได้หรือยัง ยัง! ยังมีขั้นตอนสุดท้ายอีกขั้นตอนที่จำเป็นในการรักษาระบบการทำงานให้ต่อเนื่องเมื่อฝ่ายช่วยเหลือได้รับข้อร้องเรียนที่คล้ายกันในอนาคต ซึ่งก็คือการจัดทำเอกสาร

ซึ่งเป็นหมายเหตุเกี่ยวกับวิธีการแก้ไขข้อร้องเรียน โดยใช้เป็นคู่มือฉบับย่อสำหรับตัวแทนและเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ได้ แท็บ “การแก้ไขปัญหา” จะมีประโยชน์ในการดำเนินการขั้นตอนนี้ แท็บนี้มีเพียงกล่องข้อความที่คุณสามารถใส่รายละเอียดทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการแก้ปัญหา

ลองคิดดูว่า... ถ้าการสนับสนุนลูกค้าเป็นการแข่งวิ่งผลัดที่กำลังดำเนินอยู่ ข้อมูลในแท็บการแก้ปัญหาก็เปรียบเสมือนไม้ต่อที่ตัวแทนจะส่งต่อให้กัน ยิ่งข้อมูลมีความครอบคลุมและชัดเจนมากเท่าใด ก็ยิ่งมีประโยชน์ต่อเพื่อนร่วมงานมากเท่านั้น

เคล็ดลับมืออาชีพ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้รวมรายละเอียดไว้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้คุณสามารถใช้ตัวเลือกบันทึกและเพิ่มบทความที่มีประโยชน์ได้ ซึ่งตัวเลือกนี้จะเปลี่ยนเนื้อหาของแท็บการแก้ปัญหาให้เป็นบทความวิธีใช้ในฐานความรู้ของคุณ ความสามารถนี้จะทำให้พร้อมสนับสนุนลูกค้าของคุณและช่วยปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกแบบบริการตนเองที่ฝ่ายสนับสนุนของคุณมีนำเสนอได้

นอกจากนี้ หากแผนการดำเนินการโดยรวมสำหรับการแก้ปัญหานั้นมีประสิทธิภาพ คุณก็สามารถกำหนด Blueprint ให้กับกระบวนการได้ การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าข้อร้องเรียนในอนาคตที่มีลักษณะเดียวกันจะได้รับการแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพผ่านการทำงานร่วมกันข้ามสายงาน