แอปการบริการลูกค้า
มอบบริการสนับสนุนสุดพิเศษให้กับลูกค้าของคุณด้วยแอปการบริการลูกค้าแบบตามความต้องการ
เทมเพลตแอปแบบ Low-Code ที่พร้อมใช้งานสำหรับแผนกบริการลูกค้าของคุณ
ในธุรกิจที่ต้องพบปะกับลูกค้า การบริการลูกค้าที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลถือเป็นสิ่งสำคัญต่อความสำเร็จ แต่การรักษาแผนกบริการลูกค้าให้อยู่ในระดับแนวหน้าอาจเป็นเรื่องท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่มีทรัพยากรจำกัด
วิธีหนึ่งในการเอาชนะความท้าทายนี้คือการใช้แอปแบบ Low-Code ที่พร้อมใช้งาน แอปแบบ Low-Code คือแอปที่สามารถสร้างและปรับใช้ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ดอย่างกว้างขวาง เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการให้แอปพลิเคชันทำงานได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่กระทบต่อคุณภาพหรือฟังก์ชันการทำงาน และเนื่องจากโดยทั่วไปแล้ว แอปแบบ Low-Code จะพัฒนาได้ง่ายกว่าและเร็วกว่าแอปพลิเคชันแบบกำหนดเองที่ใช้วิธีการดั้งเดิม จึงช่วยให้ธุรกิจสามารถประหยัดเวลาและเงินได้
เมื่อพูดถึงการบริการลูกค้า มีแอปแบบ Low-Code จำนวนมากที่สามารถใช้เพื่อปรับปรุงกระบวนการและเพิ่มประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น มีแอปที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการกับการสอบถามของลูกค้า ติดตามระดับความพึงพอใจของลูกค้า หรือแม้แต่ทำให้งานบริการลูกค้าเป็นอัตโนมัต ด้วยการใช้แอปแบบ Low-Code ธุรกิจสามารถเอาชนะความท้าทายในการให้บริการลูกค้าได้อย่างยอดเยี่ยมโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมาย
8 เหตุผลที่ทำให้แพลตฟอร์ม Low-Code เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับแผนกบริการลูกค้า
- แพลตฟอร์ม Low-Code สามารถช่วยให้แผนกบริการลูกค้าสร้างแอปพลิเคชันแบบกำหนดเองที่ตรงกับความต้องการเฉพาะขององค์กรได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
- ด้วยการใช้แพลตฟอร์ม Low-Code แผนกบริการลูกค้าสามารถหลีกเลี่ยงความจำเป็นในการมีส่วนร่วมในโครงการพัฒนาที่ใช้เวลานานและมีราคาแพง
- แพลตฟอร์ม Low-Code สามารถช่วยแผนกบริการลูกค้าสร้างต้นแบบและปรับใช้โซลูชันการบริการลูกค้าใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
- ด้วยการใช้แพลตฟอร์ม Low-Code แผนกบริการลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จากส่วนประกอบและเทมเพลตที่สร้างไว้ล่วงหน้า ซึ่งสามารถช่วยประหยัดเวลาและเงินได้
- แพลตฟอร์ม Low-Code สามารถช่วยให้แผนกบริการลูกค้าสามารถรวมเข้ากับระบบและแหล่งข้อมูลที่มีอยู่ได้อย่างง่ายดาย และช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่น
- แพลตฟอร์ม Low-Code ช่วยปรับปรุงกระบวนการโดยการทำให้งานซ้ำๆ เป็นอัตโนมัติ และให้แนวทางที่ชัดเจนสำหรับการแก้ไขปัญหา ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาและช่วยให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าแต่ละรายจะได้รับบริการในระดับสูงเช่นเดียวกัน
- แพลตฟอร์ม Low-Code ช่วยปรับปรุงการสื่อสารโดยการรวมเข้ากับระบบที่มีอยู่และให้พื้นที่เก็บข้อมูลส่วนกลาง ซึ่งจะช่วยให้พนักงานแผนกบริการลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดที่ต้องการได้ในที่เดียว ทำให้การแก้ไขปัญหาง่ายขึ้นอย่างรวดเร็ว
- แพลตฟอร์ม Low-Code มอบประสบการณ์โดยรวมที่ดีขึ้นโดยการรวมกับหลายๆ ช่องทาง (เช่น โทรศัพท์ อีเมล แชท) และเสนอตัวเลือกในการบริการตนเองแก่ลูกค้า ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกวิธีที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา และแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที
ตัวอย่างกรณีการใช้โซลูชัน Low-Code สำหรับแผนกบริการลูกค้า
- สร้างฐานความรู้แบบรวมศูนย์: สามารถใช้แพลตฟอร์ม Low-Code เพื่อสร้างพื้นที่เก็บข้อมูลส่วนกลางสำหรับข้อมูลการบริการลูกค้าทั้งหมด ซึ่งจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ค้นหาคำตอบที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ช่วยปรับปรุงอัตราการแก้ไขปัญหาในการติดต่อครั้งแรก
- สร้างศูนย์บริการลูกค้าแบบครบวงจร: สามารถใช้แพลตฟอร์ม Low-Code เพื่อสร้างศูนย์บริการการติดต่อแบบครบวงจรที่รองรับทุกช่องทาง สิ่งนี้จะช่วยให้ลูกค้ามีความยืดหยุ่นในการเลือกช่องทางที่เหมาะกับพวกเขามากที่สุด และช่วยปรับปรุงคะแนนความพึงพอใจของลูกค้า
- พัฒนาโซลูชันการบริการตนเอง: แพลตฟอร์ม Low-Code สามารถใช้เพื่อสร้างโซลูชันการบริการตนเอง เช่น แชทบอทและคำถามที่พบบ่อยแบบออนไลน์ ซึ่งจะช่วยลดภาระงานของเจ้าหน้าที่และช่วยตอบคำถามง่ายๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
- สร้างเวิร์กโฟลว์แบบกำหนดเอง: แพลตฟอร์ม Low-Code สามารถใช้เพื่อสร้างเวิร์กโฟลว์แบบกำหนดเองที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของแผนกบริการลูกค้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวม
- ออกแบบประสบการณ์ที่ปรับแต่งตามบุคคล: แพลตฟอร์ม Low-Code สามารถใช้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ปรับแต่งให้เหมาะสมกับลูกค้าได้ ซึ่งอาจรวมถึงฟีเจอร์ต่างๆ เช่น คำแนะนำที่ปรับให้เหมาะสมและโอกาสในการขายเพิ่มเติมหรือการเสนอขายผลิตภัณฑ์ที่มีราคาสูงขึ้นแบบกำหนดเป้าหมาย
- ผสานการทำงานร่วมกับระบบ CRM: แพลตฟอร์ม Low-Code สามารถใช้เพื่อผสานรวมเข้ากับระบบ CRM อย่าง Salesforce และ Dynamics 365 ได้ ซึ่งจะช่วยให้เจ้าหน้าที่มีมุมมองแบบ 360 องศาเกี่ยวกับลูกค้าและช่วยปรับปรุงการสื่อสารระหว่างทีม
- การใช้มาตรการเชิงรุก: แพลตฟอร์ม Low-Code สามารถใช้เพื่อสำหรับการปรับใช้มาตรการเชิงรุกได้ เช่น การแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์และการเชิญเข้าร่วมการแชท ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาก่อนที่จะบายปลายเป็นปัญหาใหญ่และปรับปรุงอัตราการรักษาลูกค้า
- สร้างพอร์ทัลคู่ค้า: สามารถใช้แพลตฟอร์ม Low-Code เพื่อสร้างพอร์ทัลของคู่ค้า ซึ่งคู่ค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้า/บัญชีร่วมได้ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการร่วมมือระหว่างทีม และช่วยให้มองเห็นการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าทั่วทั้งองค์กร
- สร้างชุมชนของพนักงาน: แพลตฟอร์ม Low-Code สามารถใช้สร้างชุมชนของพนักงาน ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถแก้ไขปัญหา/ตอบคำถามร่วมกันได้